แก้วมังกร สรรพคุณและประโยชน์ของแก้วมังกร 21 ข้อ !

แก้วมังกร

แก้วมังกร ภาษาอังกฤษชาวเอเชียเรามักนิยมเรียกกันว่า Dragon fruit แต่สำหรับต่างประเทศในแถบยุโรปนั้นจะใช้คำว่า Pitaya ส่วนแก้วมังกร ชื่อวิทยาศาสตร์เราจะเรียกว่า Hylocereus undatus (Haw) Britt. Rose.

แก้วมังกรเป็นผลไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในแถบอเมริกากลาง นำเข้ามาในทวีปเอเชียที่ประเทศเวียดนามเมื่อประมาณ 100 ปีที่แล้ว จัดเป็นไม้ในตระกูลกระบองเพชร สามารถปลูกได้ทั่วประเทศ แต่แหล่งเพาะปลูกที่สำคัญจะอยู่ที่จังหวัดจันทบุรี ชลบุรี กาญจนบุรี สระบุรี และสมุทรสงคราม ซึ่งได้ผลผลิตมากในช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤศจิกายน โดยเป็นผลไม้ที่มีรูปร่างกลมรี เปลือกมีสีแดง เมื่อผ่าครึ่งจะเห็นเนื้อเป็นสีขาวหรือแดง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์นั้น ๆ มีเมล็ดคล้ายเมล็ดแมงลักฝังอยู่ทั่วผล โดยแก้วมังกรจะมีสายพันธุ์ดังนี้คือ แก้วมังกรพันธุ์เนื้อขาวเปลือกแดงที่จะให้รสชาติหวานนิด ๆ อมเปรี้ยวหน่อย ๆ แก้วมังกรพันธุ์เนื้อขาวเปลือกเหลืองให้รสชาติออกหวาน และแก้วมังกรพันธุ์เนื้อแดงเปลือกแดงที่มีรสชาติหวานกว่าพันธุ์อื่น ๆ โดยวิธีการรับประทานก็รับประทานเหมือนแตงโม นำมาผ่าครึ่งแล้วใช้ช้อนตักรับประทานได้เลย

แก้วมังกรอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายชนิด อย่างเช่น วิตามินซี วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 ธาตุแคลเซียม ธาตุโพแทสเซียม ธาตุแมกนีเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก เป็นต้น ถ้ารับประทานแก้วมังกร 1 ลูก น้ำหนัก 100 กรัม ร่างกายจะได้คาร์โบไฮเดรต 12.4 กรัม โปรตีน 1.4 กรัม ฟอสฟอรัส 32 มิลลิกรัม แคลเซียม 9 มิลลิกรัม วิตามินซี 7 มิลลิกรัม พลังงาน 66 กิโลแคลอรี และใยอาหาร 2.6 กรัม และสารอื่น ๆ อีกด้วย แก้วมังกรเลยถูกจัดเป็นอาหารเพื่อสุขภาพชนิดหนึ่งที่กำลังได้รับความสนใจ เพราะเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพของคุณผู้หญิงที่รักสวยรักงามอีกด้วย

แก้วมังกรลดความอ้วนได้จริงหรือ ? ได้แน่นอน เพราะเป็นผลไม้ที่มีไขมันไม่อิ่มตัว แก้วมังกรมีแคลอรีต่ำเป็นตัวช่วยในการควบคุมน้ำหนักได้เป็นอย่างดี และเป็นผลไม้ที่มีเนื้อเยอะ รับประทานแล้วอิ่มท้องนาน เรียกได้ว่าสามารถรับประทานแทนอาหารหนึ่งมื้อได้เลย แม้จะรับประทานเยอะแค่ไหนก็ไม่ทำให้อ้วน แถมช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง สดใส ดูมีน้ำมีนวลอีกด้วย แต่ทั้งนี้ควรรับประทานอย่างพอประมาณหรือวันละไม่เกิน 1 ลูก ถ้าจะให้ดีในทุก ๆ วันไม่ควรรับประทานผลไม้เดิม ๆ ซ้ำ ๆ ติดต่อกันหลายวัน เพื่อให้ได้สารอาหารอย่างหลากหลาย และได้ประโยชน์ต่อร่างกายอย่างเต็มที่ โดยการรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมตามหลักโภชนาการนั้น ควรรับประทานผลไม้ให้ได้วันละ 3-5 ส่วนนั่นเอง

ประโยชน์ของแก้วมังกร

ประโยชน์ของแก้วมังกร

  1. แก้วมังกรช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง สดใส ชุ่มชื่น
  2. เป็นผลไม้ที่ช่วยดับร้อน ดับกระหายได้เป็นอย่างดี
  3. ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้แข็งแรง
  4. แก้วมังกรลดน้ำหนักและช่วยควบคุมน้ำหนักได้ด้วย เนื่องจากเป็นผลไม้ที่ช่วยในเรื่องการลดความอ้วนเนื่องจากมีแคลอรีต่ำ
  5. ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ซึ่งมีส่วนช่วยในการชะลอวัย ความแก่ชรา และริ้วรอยต่าง ๆ
  6. มีส่วนช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจ
  7. ช่วยป้องกันการอุดตันของหลอดเลือดหัวใจ
  8. มีส่วนในการช่วยรักษาโรคเบาหวาน
  9. ช่วยบรรเทาอาการของโรคความดันโลหิตได้
  10. มีส่วนช่วยบรรเทาอาการของโรคโลหิตจาง
  11. มีส่วนช่วยลดอัตราการเกิดโรคมะเร็ง
  12. ช่วยกระตุ้นการขับน้ำนมในสตรี
  13. ช่วยดูดซับสารพิษต่าง ๆ ออกจากร่างกาย เช่น สารตกค้างอย่างตะกั่วที่มาจากควันท่อไอเสีย หรือสารตกค้างที่มาจากยาฆ่าแมลง
  14. ช่วยบำรุงกระดูกและฟันของคุณให้แข็งแรง
  15. มีกากใยสูง ช่วยในการขับถ่ายให้สะดวก แก้อาการท้องผูก
  16. ช่วยปรับสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้ แก้ปัญหาการขับถ่ายต่าง ๆ ให้ดีขึ้น
  17. มีส่วนช่วยป้องกันโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
  18. ช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบกำจัดของเสียในร่างกายให้ดียิ่งขึ้น
  19. ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
  20. นิยมนำมารับประทานเป็นผลไม้สด
  21. ใช้เป็นส่วนผสมในฟรุตสลัดและน้ำปั่นผลไม้

แหล่งอ้างอิง : วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี (EN)

เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย (Medthai)

เมดไทย
เมดไทย (Medthai) ให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นอิสระเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ การรักษาโรค การใช้ยา สมุนไพร แม่และเด็ก ฯลฯ เราร่วมมือกับแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและดีที่สุด