ข่าตาแดง สรรพคุณและประโยชน์ของข่าตาแดง 10 ข้อ !

ข่าตาแดง

ข่าตาแดง ชื่อวิทยาศาสตร์ Alpinia officinarum Hance (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Languas officinarum (Hance) Farw., Languas officinarum (Hance) P.H.Hô) จัดอยู่ในวงศ์ขิง (ZINGIBERACEAE)[1]

สมุนไพรข่าตาแดง มีชื่อเรียกอื่นว่า ข่าเล็ก (ไทย)[1]

ลักษณะของข่าตาแดง

  • ต้นข่าตาแดง จัดเป็นพรรณไม้ลงหัว เมื่อแตกขึ้นเป็นกอจะมีลักษณะเหมือนกับข่าใหญ่ แต่จะมีขนาดของต้นเล็กและสั้นกว่าข่าใหญ่เล็กน้อย และมีขนาดโตกว่าข่าลิงเล็กน้อย ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการแยกหน่อเอามาปลูก[1]

ต้นข่าตาแดง

  • ใบข่าตาแดง ใบมีลักษณะเช่นเดียวกับข่าใหญ่ โดยมีลักษณะของใบเป็นรูปไข่ยาว คล้ายใบพาย ออกสลับกันรอบ ๆ ลำต้น[1]

ใบข่าตาแดง

  • ดอกข่าตาแดง ออกดอกเป็นช่อตรงปลายยอด ช่อดอกเป็นสีขาว แต้มด้วยสีแดงเล็กน้อย[1]

ดอกข่าตาแดง

  • หน่อข่าตาแดง เมื่อแตกหน่อ หน่อจะเป็นสีแดงจัด ซึ่งเรียกว่า “ตาแดง” มีกลิ่นและรสหอมฉุนกว่าข่าใหญ่[1]

ข่าตาแดง

สรรพคุณของข่าตาแดง

เหง้าข่าตาแดง

  1. หัวข่าตาแดงใช้รับประทานเป็นยาขับลมให้กระจาย (หัว)[1]
  2. หัวมีสรรพคุณเป็นยาระบาย (หัว)[1]
  3. ต้นใช้เป็นยารักษาบิดชนิดที่ตกเป็นเลือด (ต้น)[1]
  4. ใช้เป็นยาขับโลหิตที่เน่าในมดลูกของสตรี และช่วยขับลมในลำไส้ ด้วยการนำหัวข่าตาแดงมาโขลกคั้นกับน้ำส้มมะขามเปียกและเกลือประมาณ 1 ชาม แกงเขื่อง ๆ ให้หญิงที่เพิ่งคลอดบุตรใหม่ ๆ รับประทานให้หมด (หัว)[1]
  5. หัวใช้เป็นยารักษาบาดทะยักปากมดลูกของสตรี (หัว)[1]
  6. ใบใช้เป็นยาทารักษากลาก (ใบ)[1]
  7. ดอกใช้เป็นยาทารักษาเกลื้อน (ดอก)[1]
  8. หัวใช้เป็นยาช่วยบรรเทาอาการฟกช้ำบวม (หัว)[1]
  9. หัวมีสรรพคุณช่วยรักษาอาการพิษ ช่วยรักษาอาการพิษโลหิตทำ (หัว)[1]

ประโยชน์ของข่าใหญ่

  • หน่อสามารถนำมาใช้ปรุงอาหารได้[1]
เอกสารอ้างอิง
  1. หนังสือพจนานุกรมสมุนไพรไทย, ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 5.  (ดร.วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม).  “ข่าตาแดง”.  หน้า 105-106.

ภาพประกอบ : www.flickr.com (by 阿橋, Matthew Stevens, lejardintropical)

เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย (Medthai)

เมดไทย
เมดไทย (Medthai) ให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นอิสระเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ การรักษาโรค การใช้ยา สมุนไพร แม่และเด็ก ฯลฯ เราร่วมมือกับแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและดีที่สุด